Tor หรือ "The Onion Router" คือบริการที่สร้างเพื่อให้ผู้คนสามารถท่องอินเตอร์เน็ตได้โดยไม่เปิดเผยตัวตน Tor เป็นระบบแบบกระจายศูนย์ (decentralized) ซึ่งผู้ใช้จะต้องทำการเชื่อมต่อกับเครือข่ายของเครื่องตัวกลางอื่นๆ ก่อน (เมื่อเปรียบเทียบกับการเชื่อมต่อถึงเว็บไซต์โดยตรง เมื่อทำการเชื่อมต่อโดยทั่วไป) โดยวิธีดังกล่าวนั้นจะช่วยซ่อนไอพีแอดเดรสของคุณจากเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม เนื่องจากคุณใช้วิธีการเชื่อมต่อผ่านเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ แบบสุ่ม ก่อนที่จะเชื่อมต่อถึงเว็บไซต์เป้าหมาย ทำให้เว็บไซต์ดังกล่าวไม่สามารถตามรอยคุณได้
ถึงข้อมูลของคุณจะถูกเข้ารหัสในขณะที่ส่งผ่านเครื่องตัวกลาง การเชื่อมต่อจุดท้ายสุดของเครื่องตัวกลางเครื่องสุดท้ายนั้นสามารถถูกเจาะได้หากเว็บไซต์ที่เรียกไม่ได้ใช้การเชื่อมต่อแบบ SSL Tor ยังมีข้อเสียที่เป็นที่ทราบกันว่าทำให้การเข้าชมเว็บไซต์ช้าลงอย่างมาก เนื่องจากจะต้องทำการโอนถ่ายข้อมูลผ่านตัวกลางจำนวนมาก นอกจากนั้น หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับการสอดแนมข้อมูลของรัฐบาล Tor นั้นถูกสร้างขึ้นด้วยความร่วมมือของนาวิกโยธินสหรัฐ (U.S. Navy) และถูกใช้งานโดยหน่วยงานรัฐบาลมากมาย และเนื่องจาก Tor นั้นถูกใช้โดยฝั่งตรงข้ามทางการเมือง, ผู้สื่อข่าว หรือแม้กระทั่งอาชญากร รัฐบาลจึงได้จับตาผู้ใช้ Tor เป็นพิเศษ ซึ่งนี่อาจจะทำให้คุณถูกสงสัยว่าเป็นผู้ใช้ประเภทอาชญากร และทำการตรวจเฝ้าทุกกิจกรรมออนไลน์ของคุณ
เครือข่ายจำลองส่วนตัว (Virtual Private Network - VPN) คือการเชื่อมต่อเครือข่ายซึ่งช่วยให้คุณทำการเชื่อมต่อได้อย่างปลอดภัยไปยังตำแหน่งอื่น ซึ่งช่วยให้ผู้อื่นมองเห็นราวกับว่าคุณอยู่ในตำแหน่งอื่น คอมพิวเตอร์ของคุณจะทำการสร้างท่อจำลองที่เข้ารหัสไว้สำหรับเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN โดยใช้โปรโตคอล VPN อย่าง OpenVPN หรือ WireGuard® และการเข้าเว็บทั้งหมดของคุณจะดูเหมือนว่าถูกเรียกใช้งานโดยเซิร์ฟเวอร์ VPN นั้น
ดังนั้น การเลือกผู้ให้บริการ VPN คุณภาพสูงซึ่งไม่เก็บข้อมูลหรือประวัติการใช้งานของคุณจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เนื่องจากในกรณีที่หน่วยงานรัฐบาลสั่งให้ผู้ให้บริการ VPN เปิดเผยข้อมูลประวัติการใช้งาน ผู้ใช้ก็จะถูกเปิดเผยตัวตน นอกจากนั้น ผู้ให้บริการ VPN ดังกล่าวก็ควรจะมีระบบการกระจายการทำงาน (load balancing) ที่ดี และมีการสุ่มเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ทำการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่ไม่ซ้ำกันทุกครั้งที่ทำการเชื่อมต่อ
PIA ไม่เก็บข้อมูลประวัติการใช้งานของคุณ ข้อมูลของคุณจึงปลอดภัยเสมอ
พร็อกซี่จะทำการลำเลียงข้อมูลของคุณผ่านคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเช่นเดียวกับ VPN โดยถึงแม้พร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์นั้นจะมีทั้งแบบสาธารณะและส่วนตัว มีแต่พร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์แบบส่วนตัวเท่านั้นซึ่งเสถียร และไว้ใจได้ (และส่วนใหญ่จะเป็นแบบเสียเงิน)
พร็อกซี่โปรโตคอลหลักๆที่ใช้ในปัจจุบันนี้คือ SOCKS และ HTTP/HTTPS โดยพร็อกซี่แบบ SOCKS และ HTTP นั้นไม่มีการเข้ารหัสใดๆ ในขณะที่พร็อกซี่แบบ HTTPS นั้นทำการเข้ารหัสในระดับเดียวกับเว็บไซต์ SSL อย่างไรก็ตาม พร็อกซี่นั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลอินเตอร์เน็ตทั้งหมดของคุณ โดยส่วนมากจะปกป้องแค่เบราเซอร์ของคุณเท่านัน นอกจากนั้น พร็อกซี่มากมายยังส่งไอพีแอดเดรสให้กับเว็บไซต์ปลายทางอีกด้วย อีกทั้งการตั้งค่าพร็อกซี่นั้นยังจะต้องทำแยกกันสำหรับทุกแอพพลิเคชั่น (อีเมล, เบราเซอร์, แอพอื่นๆ) และบางแอพพลิเคชั่นอาจจะไม่รับรองพร็อกซี่
บริการทั้งสองอย่างนี้สามารถใช้ร่วมกันได้เพื่อเพิ่มการปกป้อง แต่วิธีนี้จะทำให้บริการช้าลงอย่างมาก เนื่องมาจากวิธีการส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกแบบสุ่มของ Tor อย่างไรก็ตาม การใช้ VPN นั้นก็เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อที่ข้อมูลของคุณจะได้ถูกเข้ารหัสไว้ ผู้ให้บริการ VPN ที่ไม่เก็บข้อมูลประวัติการใช้งานก็สำคัญเช่นเดียวกัน
1 เดือน
3 ปี + 4 เดือน ฟรี
1 ปี
Target | Walmart | Best Buy | และอีก 71 แบรนด์